วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

อาชีพขายโจ๊ก

โจ๊ก เมนูง่ายๆ อิ่มสบายท้อง จานด่วน ชวนหิวอาหารการกินบ้านเรานั้นหลากหลายเมนู ทั้งประเภทคาว หวาน จานด่วนจานดึก มีไว้บริการ 24 ชั่วโมง เนื่องจากภาวะปัจจุบัน ผู้หญิงและผู้ชายต่างต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ช่วยกันหาเลี้ยงครอบครัว บทบาทของแม่บ้านลดน้อยถอยลง ที่ว่าอย่างนั้นไม่ใช่ผู้หญิงไทยไม่ใส่ใจครอบครัว แต่เรื่องของอาหารการกินจะให้ลงมือปรุงทุกมื้อคงเป็นไปได้ยาก ผู้ประกอบการอาหารสำเร็จรูปจึงเข้ามามีบทบาทแทนที่ ปรุงแต่งอาหารไว้สำหรับให้คุณแม่บ้านหรือไม่บางครั้งก็เป็นคุณพ่อบ้านได้เลือกซื้อหาไปรับประทาน โจ๊ก เมนูฮิตติดปากติดใจอาหารจานด่วนเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันมากขึ้น และหนึ่งในเมนูฮิตติดปากถูกใจก็ต้องยกให้ "โจ๊ก" อาหารสบายท้อง พร้อมคุณค่าครบครัน อีกทั้งเมนูนี้ยังเอาใจทุกเพศทุกวัยให้เลือกอิ่มอร่อยในราคาประหยัดไม่น่าเชื่อว่าข้าวที่เคี่ยวจนเละพร้อมใส่เครื่องปรุงส่วนผสมแบบง่ายๆ จะครองใจประชาชนได้ถึงขนาดนี้ มิหนำซ้ำยังหากินง่าย ลองว่าเป็นแหล่งชุมชน หมู่บ้าน ริมถนน หรือในห้างสรรพสินค้าเป็นต้องเจอร้านขายโจ๊กสักร้านหนึ่งอย่างแน่นอน แต่เจ้าไหนรายใดจะปรุงอร่อยถูกปากนั้นต้องเสาะแสวงหากันหน่อย เวลาเหมาะสมหรือเรียกว่าเป็นเวลาทำเงินอยู่ในช่วงเช้า ไม่ก็ช่วงเย็นจรดค่ำ จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมผู้ประกอบการนิยมนำสินค้ามาจำหน่ายในเวลาดังกล่าว มองทางฝ่ายลูกค้าก็ว่าเมนูนี้ไม่หนักท้องมากนัก เวลาเช้าก่อนไปทำงานลองได้กินแล้วรู้สึกอิ่ม ชนิดที่ว่าไม่แน่นหรืออึดอัดเกินไป สำหรับเวลาเย็นเลือกโจ๊กเป็นอาหารประจำมื้อ เพราะช่วงเวลาดังกล่าวใกล้ค่ำแล้ว เป็นเวลาแห่งการพักผ่อน ถ้าเลือกอาหารหนักใส่ท้องจะส่งผลให้นอนหลับไม่สบาย อีกทั้งยังเป็นเมนูเหมาะกับทุกคนในครอบครัว สนนราคาไม่แพง เท่าที่ "เส้นทางเศรษฐี" เคยพบเห็นราคาตั้งแต่ 10 บาทขึ้นไป แล้วแต่เลือกเข้าร้านไหน เพราะมีทั้งเปิดแบบง่ายๆ ลงทุนไม่มากตั้งขายหน้าบ้าน มีโต๊ะเก้าอี้ไม่กี่ชุด หรือตั้งอยู่บนรถเข็นขายริมทางเท้า ขยับดีขึ้นมาหน่อยเปิดในตึกแถวเป็นร้านถาวรอาจมีอาหารอย่างอื่นขายควบคู่ไปด้วย ห้างสรรพสินค้าอีกทำเลหนึ่งที่ผู้ประกอบการสนใจเลือก หรือแม้กระทั่งภัตตาคารใหญ่โตหรูหราก็มีเมนูเด่นเมนูนี้ไว้บริการ ส่วนราคาขายแน่นอนว่าต้องสูงสักหน่อย อันนี้อย่าว่ากันปัจจุบันร้านโจ๊กเปิดให้บริการเกลื่อนตาแต่ละรายประสบผลสำเร็จเป็นเช่นนั้นหรือไม่ นี่คือคำถามให้หาคำตอบ แท้จริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป เพราะการจะเปิดกิจการใดสักอย่างนั้นต้องมีพื้นฐานความรู้ ต้องศึกษาข้อมูลต่างๆ ก่อนดำเนินการเงินทุนมีเท่าไรเรียนรู้ได้วิธีทำเริ่มจากดูความพร้อมก่อนประกอบการมีมากน้อยเพียงใด ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงทางด้านร่างกายเพียงอย่างเดียว แต่หมายรวมถึงเงินในกระเป๋าด้วย เพื่อเป็นแนวทางให้รู้ว่าควรเปิดกิจการขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่โตหรูหราต่อมาคือความรู้ด้านการปรุงโจ๊ก ถ้าไม่มี แนะนำให้ไปเรียนรู้ก่อน โดยเลือกเรียนจากร้านขายโจ๊กบางแห่งซึ่งเปิดสอน ส่วนสนนราคาจะเท่าไรนั้นไม่ทราบแน่ชัด ศูนย์เทคโนโลยีอาชีพ มติชน เป็นหนึ่งในสถาบันพร้อมถ่ายทอดวิชาความรู้อย่างละเอียด เนื่องจากมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ หรือจะเรียกว่าโชกโชนฝ่าฟันอุปสรรคมามากมาย พร้อมความรู้อัดแน่นรอการเปิดเผยให้ผู้สนใจในหลากหลายวิชา และโจ๊กก็ถูกบรรจุอยู่ในโปรแกรมการสอน ส่วนราคานั้นตั้งไว้ 1,070 บาท ต่อคน ต่อครั้ง สนใจลองโทรศัพท์เข้ามาสอบถามรายละเอียดหรือสมัครเรียนกันได้ กล่าวถึงวัตถุดิบมีไม่มาก หลักๆ คือข้าว ผู้ประกอบการหลายรายนิยมใช้ข้าวหอมมะลิ ก็แล้วแต่ เลือกใช้ปลายข้าว หรือเลือกเม็ดสวยๆ มาเคี่ยว อันนี้ถือเป็นสูตรของร้านนั้นๆ บางรายเลือกผสมข้าวกล้องลงไปเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ เช่น ร้านนายชิม โจ๊กฮ่องกง ตั้งอยู่ปากซอยเพชรเกษม 63/3 แถวบางแค ก็เป็นอีกร้านหนึ่งที่ขึ้นชื่อในเรื่องความอร่อยวัตถุดิบสำคัญไม่แพ้กันคือเนื้อสัตว์ที่นิยมเป็นหมูและไก่ รวมไปถึงกระดูกไว้สำหรับทำน้ำซุปด้วย เครื่องใน (หมู) ไม่ว่าจะเป็น ตับ ไส้ กระเพาะ กระดูกหมู คาตั๊ง และไข่ไก่ส่วนเครื่องเคียงก็มีปาท่องโก๋ เส้นหมี่แห้งทอด ไข่เยี่ยวม้า ไข่เค็ม ขิงซอย ต้นหอมซอย และเครื่องปรุงรสประเภทซอส พริกไทย ผงปรุงรส เกลือป่น น้ำตาลทราย พริกป่น อย่างนี้เป็นต้น แหล่งซื้อตลาดใกล้บ้าน โดยเลือกร้านสะอาด สินค้าสดใหม่ สำหรับวัสดุอุปกรณ์สำคัญ หม้อต้มโจ๊ก หม้อแบ่ง ถ้วยชาม ช้อน ทัพพี ชุดใส่เครื่องปรุง จากนั้นพิจารณาว่าเลือกเปิดกิจการแบบใด เช่น เปิดบนรถเข็นแน่นอนว่าต้องมีรถเข็น จะมือหนึ่งมือสองแล้วแต่ความสะดวก ถ้าเลือกร้านถาวรก็ต้องลงทุนสูงขึ้น มีโต๊ะตู้สำหรับตั้งวางวัตถุดิบและอุปกรณ์ พร้อมทั้งชุดโต๊ะเก้าอี้ไว้รองรับลูกค้าคู่แข่งช่วยเสริมเพิ่มยอดขายได้คู่แข่งถือว่าสำคัญไม่ควรมองข้าม ถ้าผู้ประกอบการขายสินค้าประเภทเดียวกันอยู่บริเวณใกล้กัน การดำเนินงานต้องพิถีพิถันรอบคอบมากขึ้น ควรใส่ใจเรื่องรสชาติ ปรุงแต่งหาความแปลกใหม่ให้กับลูกค้า เท่านั้นยังไม่พอการพูดคุยยิ้มแย้มทักทายลูกค้าถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งสร้างความประทับใจได้เป็นอย่างดีดังจะเห็นว่าหลายต่อหลายแห่ง มีร้านอาหารจานด่วนเปิดให้บริการในพื้นที่เดียวกัน เรียกว่าเป็นคู่แข่งทางอ้อม แต่ประโยชน์ที่ร้านต่างๆ เหล่านี้ได้รับมากกว่าเสีย เพราะเป็นวิธีให้บริการแบบเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า รายได้ก็กระจายถ้วนทั่ว และแน่นอนว่าอาหารที่มีให้ลูกค้าเลือกหลากหลายเมนูย่อมชี้ช่องเชิญชวนมาใช้บริการอย่างแน่นอนดังกล่าวมาข้างต้นเป็นเสมือนข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจ แต่อย่าลืมว่าต้องทำด้วยใจรัก ใส่ใจเรื่องการบริการ เพราะนี่ถือเป็นหัวใจหลักให้ลุล่วงประสบผลสำเร็จ อีกประการหนึ่งดังกล่าวไว้ข้างต้นคือทุน ดูให้ดีว่ามีอยู่ในกระเป๋าเท่าไร วางแผนการดำเนินงานไว้ก่อนล่วงหน้าดังตัวอย่างหลายราย ค่อยๆ เริ่ม ค่อยๆ ทำ จากกิจการเล็กๆ ก็สามารถมุ่งสู่กิจการใหญ่โต เหล่านี้มีให้เห็นออกถมไป@ เปิดใจหนึ่งในผู้ประกอบการขายโจ๊ก"จำได้ว่าครั้งแรกที่เปิดร้าน แม่ค้า พ่อค้าแถวนี้เขาหัวเราะ ว่าจะขายได้อย่างไร เพราะโจ๊กนิยมช่วงเช้าไม่ใช่เย็นหรือค่ำ แต่ผลปรากฏว่าขายได้และขายดีด้วย"สมพร ยวงทอง ผู้ประกอบการร้าน "โจ๊กปรุงรส" เผยถึงกิจการว่า ประกอบอาชีพนี้มาเป็นระยะเวลา 17 ปี โดยเริ่มต้นจากทำน้อยขายน้อยก่อน "วันแรกเริ่มขายโจ๊ก ต้มข้าวเพียง 3 กิโลกรัม เป็นการทดลองตลาด ปรากฏว่าขายหมด จากนั้นทำเพิ่มมาเรื่อยๆ ปัจจุบันต้มข้าววันละ 20 กิโลกรัม ได้ทำเลดี มีลูกค้าจำนวนมากให้การอุดหนุนทั้งขาประจำและขาจร"สำหรับวิชาความรู้ด้านการปรุงโจ๊กให้อร่อยเป็นที่ถูกปากใครหลายๆ คน เรียนรู้มาจากพี่สาว ผู้ซึ่งเคยประกอบการมาก่อน แต่เพราะมีเหตุจำเป็นบางประการให้ต้องเลิกกิจการ ซึ่งพี่สาวของคุณสมพร เล็งเห็นว่ากิจการนี้ถ้าดำเนินการต่อไปสามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง จึงยกให้น้องชายเป็นผู้ดูแลคุณสมพร ว่าเคล็ดลับการปรุงโจ๊กไม่มีอะไรแตกต่างจากคนอื่น เพียงแต่ใช้ข้าวหอมมะลิอย่างดี เป็นวัตถุดิบหลักสร้างความอร่อย อีกทั้งเนื้อหมูและส่วนผสมอื่นๆ ต้องสด สะอาด "บางรายใส่แป้งมันและไข่ผสมในเนื้อหมูเพื่อให้ได้ปริมาณมาก และทำให้เนื้อหมูลื่น แต่สูตรของผมจะใช้เนื้อหมูล้วน โดยนำไปหมักกับพริกไทย ซอส ผงปรุงรส เกลือ ส่วนข้าวหอมมะลิต้องต้มก่อน 2-3 ชั่วโมง จากนั้นนำไปเคี่ยวกับน้ำต้มกระดูกหมูอีกครั้งหนึ่ง" คุณสมพร หนุ่มใหญ่วัย 44 ปี กล่าวรูปแบบร้าน "โจ๊กปรุงรส" เป็นรถเข็นขนาดไม่ใหญ่โตมากนัก จัดแต่งป้ายชื่อร้านโทนสีฟ้า โดยมีรายละเอียดเมนูอาหารพร้อมราคาแจกแจงไว้ ธรรมดา 15 บาท ใส่ไข่ 20 บาท พิเศษ 25 บาท ทั้งนี้มีชุดโต๊ะเก้าอี้เพียงไม่กี่ชุดไว้รองรับลูกค้า "ผมเริ่มจากเล็กๆ ก่อน แต่มาถึงปัจจุบันรวมการลงทุนอยู่ที่หลักหมื่น เพราะต้องซื้อวัสดุอุปกรณ์เพิ่มมากขึ้น แต่ก็ถือว่าไปได้ดี กับทำเลนี้ เพราะคนจะพลุกพล่าน โดยเฉพาะช่วงเย็น โจ๊กปรุงรสเปิดให้บริการ 16.00-05.00 น. ซึ่งจะขายสลับกันกับภรรยา โดยภรรยาผมขายตั้งแต่ 16.00-23.00 น. จากนั้นผมรับช่วงต่อไปจนถึง 05.00 น."คุณสมพร ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า "จำได้ว่าครั้งแรกที่เปิดร้าน แม่ค้า พ่อค้าแถวนี้เขาหัวเราะ ว่าจะขายได้อย่างไร เพราะโจ๊กนิยมช่วงเช้าไม่ใช่เย็นหรือค่ำ แต่ผลปรากฏว่าขายได้และขายดีด้วย" คุณสมพร เล่าถึงทำเลตั้งร้านปากซอยรามคำแหง 55 เมื่อกิจการดีขึ้น ลูกค้าให้การอุดหนุนคับคั่ง ส่งผลให้ต้องจัดจ้างพนักงานเข้ามาช่วย 2 คน อัตราเงินเดือนคนละ 3,000 บาท "แต่ก่อนผมเป็นรายแรกในย่านนี้ที่ขายโจ๊กตอนเย็น แต่ปัจจุบันก็เริ่มมีเกิดขึ้นหลายราย แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นคู่แข่ง ก็แล้วแต่ลูกค้าจะซื้อใคร เพราะของผมรายเดียวก็คงรองรับลูกค้าไม่หมด ตอนเย็นๆ ลูกค้าจะเยอะมาก แต่พอตอนดึกๆ กลุ่มนักเที่ยวจะมาอุดหนุน" ทำเลและลูกค้าที่คุณสมพร กล่าวเสริมให้ฟังกล่าวถึงอุปสรรคปัญหาใหญ่ขณะนี้ไม่มีอะไรหนักหนาสาหัส มีก็แต่ผลกระทบไข้หวัดนก ที่เข้ามาแพร่ระบาด ส่งผลให้ราคาเนื้อหมูสูงขึ้น อีกทั้งลูกค้าไม่นิยมบริโภคไข่ โจ๊กจึงมีรายได้น้อยตามไปด้วย"สำหรับผู้สนใจต้องการประกอบกิจการเช่นผม ขอให้ทำด้วยความตั้งใจจริง เน้นวัตถุดิบที่สด สะอาด คุณภาพดี ถึงแม้ราคาจะสูงหน่อย แต่ไม่นานลูกค้าก็ติดใจ รายได้ก็มีมากขึ้น สำคัญต้องอดทน และมองทำเลให้ดี หาช่วงเวลาขายให้เหมาะสมกับลูกค้า" หนุ่มจังหวัดชัยภูมิ ผู้มาใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ กล่าวด้วยรอยยิ้มทิ้งท้าย

อาชีพขายยาดม